ภาพยนตร์ 10 เรื่องเช่น Scoop ของ Netflix ที่คุณต้องดู

'Scoop' ของ Netflix กำกับโดยฟิลิป มาร์ตินเป็นดรามาชีวประวัติของอังกฤษที่จับใจ โดยมีนักแสดงทั้งมวลรวมไปถึงกิลเลียน แอนเดอร์สัน รูฟัส ซีเวลล์ บิลลี ไพเพอร์ และคีลีย์ ฮาวส์ เจาะลึกกระบวนการอันเข้มข้นเบื้องหลังการสัมภาษณ์เจ้าชายแอนดรูว์ทาง BBC ปี 2019 โดยนักข่าว Emily Maitlis และทีมงาน Newsnight ดัดแปลงมาจากหนังสือของแซม แม็คอัลลิสเตอร์เรื่อง 'Scoops: Behind the Scenes of the BBC's Most Shocking Interviews' โดยเรื่องราวดังกล่าวเจาะลึกการเจรจาอย่างพิถีพิถันกับพระราชวังบักกิงแฮม เพื่อเปิดเผยความจริงเบื้องหลังความสัมพันธ์อันขัดแย้งระหว่างแอนดรูว์กับเจฟฟรีย์ เอปสเตน

การสัมภาษณ์ซึ่งถือเป็นช่วงเวลาสำคัญของการสื่อสารมวลชนยุคใหม่ เผยให้เห็นถึงความเข้มข้นที่เข้มข้น เปิดโปงการเปิดเผยเรื่องอื้อฉาว และจุดชนวนให้เกิดความขัดแย้ง หากคุณปรารถนาเรื่องราวที่เต็มไปด้วยการสื่อสารมวลชน เรื่องอื้อฉาว การแสวงหาความจริง และทุกสิ่งที่อยู่ระหว่างนั้น ต่อไปนี้เป็นภาพยนตร์ 10 เรื่องที่คล้ายกับ 'Scoop' ที่สมควรได้รับความสนใจจากคุณ

10. บอมบ์เชลล์ (2019)

- กระสุน ' เป็นภาพยนตร์ดราม่าที่กำกับโดยเจย์ โรช ซึ่งเจาะลึกเรื่องราวอื้อฉาวเกี่ยวกับการล่วงละเมิดทางเพศในชีวิตจริงที่เขย่าวงการ Fox News ในปี 2559 ภาพยนตร์เรื่องนี้นำแสดงโดยชาร์ลิซ เธอรอน ในบทเมจิน เคลลี, นิโคล คิดแมน ในบทเกร็ตเชน คาร์ลสัน และมาร์โกต์ ร็อบบี้ ในบทตัวละครประกอบ ทำให้การเล่าเรื่องมีความลึกมากขึ้น โดยบันทึกประสบการณ์ของพนักงานหญิงที่ Fox News เมื่อพวกเขาต้องเผชิญกับสภาพแวดล้อมการทำงานที่เป็นพิษ และเผชิญหน้ากับการประพฤติมิชอบของชายผู้มีอำนาจเช่น Roger Ailes เช่นเดียวกับ 'Scoop' 'Bombshell' จะสำรวจเบื้องหลังของเครือข่ายข่าวหลักและความพยายามของนักข่าวในการเปิดเผยความจริงและรับผิดชอบต่อผู้มีอำนาจ

9. ฆ่าผู้ส่งสาร (2014)

'Kill the Messenger' เป็นภาพยนตร์ระทึกขวัญที่กำกับโดย Michael Cuesta ซึ่งสร้างจากเรื่องจริงของนักข่าว Gary Webb โครงเรื่องติดตามเวบบ์ (เจเรมี เรนเนอร์) ในขณะที่เขาเปิดเผยความเกี่ยวข้องของซีไอเอในการลักลอบขนโคเคนเข้ามาในสหรัฐอเมริกาเพื่อหาทุนสนับสนุนกลุ่มกบฏนิการากัว คอนทรา ขณะที่เวบบ์เจาะลึกเรื่องราว เขาก็เผชิญกับแรงกดดันอันรุนแรงจากหน่วยงานภาครัฐและสื่อ เช่นเดียวกับ 'Scoop' 'Kill the Messenger' แสดงให้เห็นโลกแห่งการสื่อสารมวลชนเชิงสืบสวน โดยเน้นถึงความเสี่ยงและความท้าทายที่นักข่าวต้องเผชิญซึ่งเปิดเผยความจริงอันเป็นที่ถกเถียงซึ่งคุกคามผลประโยชน์อันทรงพลัง

8. มิสเตอร์โจนส์ (2019)

'นาย. Jones’ เป็นภาพยนตร์ดราม่าประวัติศาสตร์ที่กำกับโดย Agnieszka Holland ซึ่งบรรยายถึงเรื่องจริงของ Gareth Jones นักข่าวชาวเวลส์ เรื่องราวเกิดขึ้นในช่วงต้นทศวรรษ 1930 โครงเรื่องติดตามโจนส์ในรูปลักษณ์ของเจมส์ นอร์ตัน ในขณะที่เขาเปิดเผยความจริงเกี่ยวกับภาวะอดอยากโฮโลโดมอร์ในสหภาพโซเวียตยูเครน แม้จะเผชิญกับความกังขาและการเซ็นเซอร์ โจนส์ก็เสี่ยงชีวิตเพื่อเปิดเผยความโหดร้ายของรัฐบาลสตาลิน ตรงกันข้ามกับ 'สกู๊ป' ที่เน้นไปที่พลวัตของสื่อสมัยใหม่ 'นาย. Jones’ สำรวจสิ่งเดียวกันกับบริบททางประวัติศาสตร์ของการสื่อสารมวลชนเชิงสืบสวน โดยแสดงให้เห็นความสำคัญของการแสวงหาความจริงและความท้าทายของการรายงานในระบอบการปกครองที่กดขี่

7. เธอพูด (2022)

- เธอพูด ' เป็นละครที่โลดโผนกำกับโดย Maria Schrader โดยอิงจากหนังสือขายดีของ Jodi Kantor และ Megan Twohey ซึ่งบันทึกเหตุการณ์นักข่าวเชิงสืบสวนที่เปิดโปงเรื่องอื้อฉาวเรื่องการล่วงละเมิดทางเพศของ Harvey Weinstein ภาพยนตร์เรื่องนี้นำแสดงโดยแครี่ มัลลิแกนในบทเมแกน ทูเฮย์ และโซอี้ คาซานในบทโจดี้ คันตอร์ ซึ่งถ่ายทอดเรื่องราวการแสวงหาความจริงท่ามกลางการคุกคามและการข่มขู่ 'She Said' สะท้อนบรรยากาศการสืบสวนอันเข้มข้นที่ปรากฎใน 'Scoop' แม้ว่าจะมุ่งเน้นไปที่เรื่องอื้อฉาวอื่นก็ตาม ภาพยนตร์ทั้งสองเรื่องพุ่งเข้าสู่ความท้าทายในการทำลายเรื่องราวอื้อฉาวเมื่อเผชิญกับการต่อต้านที่ทรงพลัง

6. เรื่องจริง (2558)

'True Story' กำกับโดย Rupert Goold เป็นภาพยนตร์ที่สร้างจากเหตุการณ์จริงที่เกี่ยวข้องกับความสัมพันธ์ที่ซับซ้อนระหว่าง Michael Finkel นักข่าวผู้เสียศักดิ์ศรีและ Christian Longo ผู้ถูกกล่าวหาว่าเป็นฆาตกร เจมส์ ฟรังโกรับบทเป็นลองโก ในขณะที่โจนาห์ ฮิลล์รับบทเป็นฟินเคิลในภาพยนตร์ระทึกขวัญแนวจิตวิทยาเรื่องนี้ ภาพยนตร์เรื่องนี้สำรวจแก่นแท้ของความจริง การบงการ และอัตลักษณ์ ขณะที่ฟิงเคิลเจาะลึกอดีตอันน่าตกตะลึงของลองโก ขณะเดียวกันก็ต้องต่อสู้กับประเด็นขัดแย้งทางจริยธรรมของเขาเอง เช่นเดียวกับ 'Scoop' 'เรื่องจริง' มองเข้าไปในโลกที่มืดมนของการสื่อสารมวลชนเชิงสืบสวน นำเสนอความท้าทายและความคลุมเครือทางศีลธรรมที่นักข่าวต้องเผชิญเมื่อเปิดเผยความจริงเบื้องหลังเรื่องราวที่โลดโผน

5. ราตรีสวัสดิ์และโชคดี (2548)

'Good Night, and Good Luck' กำกับโดยจอร์จ คลูนีย์ เป็นการนำเสนอภาพที่จับใจของนักข่าวเอ็ดเวิร์ด อาร์. เมอร์โรว์ที่ยืนหยัดอย่างกล้าหาญเพื่อต่อต้านการล่าแม่มดต่อต้านคอมมิวนิสต์ของวุฒิสมาชิกโจเซฟ แม็กคาร์ธีในช่วงทศวรรษ 1950 ภาพยนตร์เรื่องนี้นำโดยการแสดงอันน่าหลงใหลของ David Strathairn ในบท Murrow เจาะลึกถึงความตึงเครียดระหว่างความซื่อสัตย์สุจริตของนักข่าวและแรงกดดันจากรัฐบาล เป็นข้อพิสูจน์ถึงความสำคัญของการพูดความจริงต่ออำนาจ ซึ่งสะท้อนกับธีมของความรับผิดชอบและการสื่อสารมวลชนอย่างมีจริยธรรมที่ปรากฏใน 'Scoop' ภาพยนตร์ทั้งสองเรื่องนำเสนอภาพสะท้อนที่เจ็บปวดต่อความท้าทายที่นักข่าวต้องเผชิญในภูมิทัศน์ทางการเมืองที่เต็มไปด้วยการบิดเบือนและการเซ็นเซอร์

4. สถานะการเล่น (2009)

ใน ' สถานะการเล่น ' กำกับโดยเควิน แมคโดนัลด์ ทีมนักข่าวสืบสวนที่นำโดยแคล แม็คแอฟฟรีย์ ตัวละครของรัสเซลล์ โครว์ เผยให้เห็นเครือข่ายที่ซับซ้อนของการคอร์รัปชั่นและอุบายทางการเมืองที่เกี่ยวข้องกับการเสียชีวิตของเมียน้อยของสมาชิกสภาคองเกรส ภาพยนตร์เรื่องนี้สำรวจความสมดุลอันละเอียดอ่อนระหว่างความซื่อสัตย์สุจริตของนักข่าวและจรรยาบรรณส่วนบุคคลในการแสวงหาความจริง เช่นเดียวกับ 'Scoop' ซึ่งแสดงให้เห็นการทำงานภายในของอุตสาหกรรมสื่อและประเด็นขัดแย้งทางจริยธรรมที่นักข่าวต้องเผชิญเมื่อเปิดเผยข้อมูลที่ละเอียดอ่อน ภาพยนตร์ทั้งสองเรื่องนำเสนอภาพความท้าทายและความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องกับการทำข่าวเชิงสืบสวนอย่างแท้จริง โดยเน้นย้ำถึงความสำคัญของการยึดอำนาจเพื่อประโยชน์สาธารณะ

3. เดอะโพสต์ (2017)

ใน 'The Post' กำกับโดยสตีเวน สปีลเบิร์ก ภาพยนตร์เรื่องนี้มุ่งเน้นไปที่การตัดสินใจครั้งสำคัญของแคธารีน เกรแฮม (เมอริล สตรีพ) ที่จะตีพิมพ์ Pentagon Papers ซึ่งเป็นการศึกษาลับของรัฐบาลที่ให้รายละเอียดเกี่ยวกับการมีส่วนร่วมของสหรัฐฯ ในสงครามเวียดนามโดยมีฉากหลังเป็นฉากหลัง การต่อสู้ทางกฎหมายกับฝ่ายบริหารของ Nixon ดราม่าอิงประวัติศาสตร์เรื่องนี้เจาะลึกการแย่งชิงอำนาจในหนังสือพิมพ์วอชิงตันโพสต์ และการพิจารณาทางจริยธรรมที่เกี่ยวข้องกับการสนับสนุนเสรีภาพของสื่อ คล้ายกับ 'Scoop' 'The Post' นำเสนอเรื่องราวที่น่าสนใจเกี่ยวกับความซื่อสัตย์สุจริตของนักข่าวและความกล้าหาญเมื่อเผชิญกับแรงกดดันทางการเมือง โดยเน้นย้ำถึงความสำคัญของเสาหลักที่สี่ของประชาธิปไตย

2. ความจริง (2015)

สิ่งที่ทำให้ 'ความจริง' คล้ายกับ 'สกู๊ป' คือการพรรณนาถึงความท้าทายด้านจริยธรรมและการตรวจสอบอย่างละเอียดถี่ถ้วนที่นักข่าวต้องเผชิญในการเปิดเผยเรื่องราวที่เป็นข้อขัดแย้ง 'Truth' กำกับโดย James Vanderbilt เล่าเหตุการณ์รอบรายการข่าว CBS '60 Minutes' และรายงานเกี่ยวกับการรับราชการทหารของประธานาธิบดี George W. Bush นำโดย Mary Mapes (Cate Blanchett) และ Dan Rather (Robert Redford) นักข่าวสำรวจความซับซ้อนของการสื่อสารมวลชนเชิงสืบสวนท่ามกลาง ทางการเมือง ความกดดันและผลที่ตามมาส่วนบุคคล ภาพยนตร์เรื่องนี้เจาะลึกการแสวงหาความจริงและการเสียสละของนักข่าวในการรักษาความซื่อสัตย์สุจริตของนักข่าว

1. ฟรอสต์/นิกสัน (2008)

สำหรับผู้สนใจรักการเล่าเรื่องเชิงสืบสวนสอบสวนเช่น 'สกู๊ป', ' ฟรอสต์/นิกสัน ‘ เสนอมุมมองสู่โลกแห่งการวางอุบายทางการเมืองและความดื้อรั้นของนักข่าว กำกับโดยรอน ฮาวเวิร์ด ภาพยนตร์เรื่องนี้บันทึกการสัมภาษณ์ทางโทรทัศน์ครั้งประวัติศาสตร์ในปี 1977 ระหว่างนักข่าวชาวอังกฤษ เดวิด ฟรอสต์ และอดีตประธานาธิบดีริชาร์ด นิกสัน นำโดยไมเคิล ชีนในบทฟรอสต์ และแฟรงก์ แลงเจลลาในบทนิกสัน ภาพยนตร์เรื่องนี้นำทางการเผชิญหน้าที่มีเดิมพันสูงด้วยความเข้มข้นอันเข้มข้น ฉากหลังของเรื่องอื้อฉาววอเตอร์เกต ‘ ฟรอสต์/นิกสัน ' รวบรวมแก่นแท้ของความอุตสาหะของนักข่าวและการแสวงหาความจริง ทำให้เป็นนาฬิกาที่ต้องดูสำหรับแฟน ๆ ของ 'Scoop'

Copyright © สงวนลิขสิทธิ์ | cm-ob.pt