นำแสดงโดย Kyle Allen, Joey King และ Celeste O'Connor 'The In Between' เป็นภาพยนตร์ดราม่าโรแมนติกที่กำกับโดย Arie Posin ภาพยนตร์เรื่องนี้เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับเด็กสาววัยรุ่นชื่อ Tessa ที่สูญเสียแฟนหนุ่มของเธอ สกายลาร์ ในอุบัติเหตุทางถนน อย่างไรก็ตาม หลังจากเหตุการณ์ไม่คาดฝัน เธอตระหนักว่า Skylar ยังอยู่ใกล้ๆ และพยายามติดต่อกับเธอ
เรื่องรัก ๆ ใคร่ ๆ ของคู่รักหนุ่มสาวและคู่รักที่คลั่งไคล้ถูกถ่ายทำในสถานที่ทางธรรมชาติที่ชวนให้หลงใหลซึ่งรวมถึงสถานที่ริมชายหาด หากสถานที่ท่องเที่ยวที่สวยงามในภาพยนตร์ได้ดึงดูดความสนใจของคุณ และคุณสงสัยว่าสถานที่เหล่านั้นอยู่ที่ไหน แสดงว่าคุณมาถูกที่แล้ว นี่คือทุกสิ่งที่คุณต้องการเกี่ยวกับการถ่ายทำภาพยนตร์โรแมนติก
'The In Between' ถ่ายทำในจอร์เจียและแคลิฟอร์เนีย การผลิตสำหรับผู้กำกับ Arie Posin เริ่มเมื่อวันที่ 23 มีนาคม พ.ศ. 2564 และปิดฉากในอีกไม่กี่สัปดาห์ต่อมาในวันที่ 13 พฤษภาคม พ.ศ. 2564 การถ่ายทำส่วนใหญ่เกิดขึ้นในเมืองเล็กๆ ในจอร์เจีย ในขณะที่ฉากสำคัญจำนวนหนึ่งก็ถูกถ่ายทำในแคลิฟอร์เนียด้วย . ดังนั้น ให้เราหันมาสนใจสถานที่ถ่ายทำที่เฉพาะเจาะจงและเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับสถานที่เหล่านั้น
ดูโพสต์นี้บน Instagram
การถ่ายภาพหลักเกิดขึ้นที่เกาะ Tybee เมืองเล็กๆ ตั้งอยู่ใน Chatham County ห่างจากเมือง Savannah เพียงไม่กี่ไมล์ ซึ่งเป็นเมืองที่เก่าแก่ที่สุดในรัฐจอร์เจีย ฉากที่สกายลาร์และเทสซา เจอกันครั้งแรกที่โรงหนัง เห็นได้ชัดว่าถูกยิงในภูมิภาคเช่นกัน
ดูโพสต์นี้บน Instagram
การถ่ายทำบนเกาะ Tybee นั้นค่อนข้างท้าทายในบางวันเพราะ อากาศไม่ดี สภาพในขณะที่ทีมกำลังเผชิญกับความท้าทายด้านลอจิสติกส์ที่เกิดจากการระบาดใหญ่ ฉากสองสามฉากถูกถ่ายในสถานที่ที่ไม่เปิดเผยในแม่น้ำด้วย Arie Posin โพสต์ภาพเบื้องหลังการถ่ายทำในวันนั้นเพื่อดูรายละเอียดความท้าทายที่นักแสดงและทีมงานต้องเผชิญ
ดูโพสต์นี้บน Instagram
ลอสแองเจลิสยังเป็นสถานที่ถ่ายทำที่สำคัญสำหรับ 'The In Between' เมืองนี้เป็นศูนย์กลางของอุตสาหกรรมภาพยนตร์และโทรทัศน์ของสหรัฐอเมริกามานานกว่าศตวรรษแล้ว ดังนั้นจึงไม่น่าแปลกใจที่นครแองเจลิสเป็นที่ตั้งของสถานที่ถ่ายทำที่โด่งดังที่สุด เช่น อาคาร LA Times ('Drive'), หาด Leo Carillo (' Grease '), Lower Grand Avenue, The Sheats-Goldstein Residence (' The Big Lebowski ') และ Point Dume ('Planet of the Apes') เรียกได้ว่าเป็นเมืองหลวงแห่งการสร้างสรรค์ของโลก ประชากรในเมืองเป็นเปอร์เซ็นต์ที่มีนัยสำคัญในอุตสาหกรรมบันเทิง
ดูโพสต์นี้บน Instagram